หลายคนมองว่าการโกนขนคือวิธีกำจัดขนที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด ไม่เจ็บ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง และทำได้เองที่บ้านทุกเมื่อที่ต้องการ แต่สิ่งที่หลายคนไม่คาดคิด คือผลกระทบที่ตามมาอย่างอาการคัน แสบ แดง และตุ่มเล็ก ๆ ที่ผุดขึ้นมาบนผิวไม่นานหลังโกน บางคนรู้สึกระคายเคืองจนต้องเกา บางคนมีผิวอักเสบหรือตุ่มแดงเรื้อรังที่ทิ้งรอยไว้บนผิว ซึ่งไม่เพียงแค่สร้างความรำคาญใจ ยังส่งผลต่อความมั่นใจเวลาสวมเสื้อผ้าที่โชว์ผิวอีกด้วย
ซึ่งสาเหตุเหล่านี้มักเกิดจากการโกนขนแบบผิดวิธี ใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด หรือไม่มีการดูแลผิวหลังโกนอย่างถูกต้อง บทความนี้จึงจะพาคุณมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของอาการ ‘โกนขนแล้วคัน’ พร้อมแนะนำวิธีรักษาและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำรอยเดิม
โกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง มีสาเหตุจากอะไร
อาการหลังโกนขนน้องสาวแล้วคัน โกนขนขาแล้วคัน หรือโกนบริเวณอื่น ๆ แล้วคัน และเป็นตุ่มแดงที่หลายคนเจอ มีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มักจะไม่รู้ตัว เช่น
- ผิวขาดความชุ่มชื้น: ผิวที่แห้งจะไวต่อการระคายเคืองมากกว่าปกติ การโกนขนโดยไม่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนและหลังอาจทำให้เกิดอาการคัน
- ใบมีดไม่คม/สกปรก: ใบมีดทื่อหรือมีคราบสนิม จะเพิ่มโอกาสที่ผิวจะถลอก เกิดแผลจุดเล็ก ๆ ที่ตามมาด้วยอาการแดง คัน
- ใช้แรงกดมากเกินไปขณะโกน: การใช้แรงกดใบมีดแรง ๆ ทำให้ผิวชั้นบนเสียหาย เกิดเป็นรอยถลอกหรือตุ่มแดงตามมาได้
- ขนคุด: หลังโกน บางเส้นขนงอกกลับเข้าไปในผิว ส่งผลให้เกิดการอักเสบ ตุ่มนูนแดง และคันได้
- การเสียดสีจากเสื้อผ้า: หลังโกน หากใส่เสื้อผ้ารัดแน่นหรือระบายอากาศไม่ดี จะเพิ่มการเสียดสีและกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง
- เทคนิคการโกนผิดวิธี: เช่น โกนย้อนแนวขนโดยตรง หรือไม่ทำความสะอาดผิวและใบมีดให้เรียบร้อยก่อนใช้งาน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการระคายเคืองที่หลายคนมองข้าม
บริเวณที่มักเกิดอาการโกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง
โดยปกติแล้ว อาการโกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง สามารถเกิดขึ้นได้ทุกบริเวณที่มีการระคายเคือง แต่ส่วนใหญ่จะพบในบริเวณที่มีความบอบบาง ได้แก่
- ใบหน้า: โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง สำหรับผู้ชายที่โกนหนวดเป็นประจำ
- หนวด: ผิวบริเวณนี้บอบบาง ตอบสนองต่อการโกนมาก
- ขา: เนื้อบริเวณน่องหรือต้นขามีเส้นขนหนา โกนบ่อยจึงระคายง่าย
- รักแร้: มีความชื้นสูง เสี่ยงขนคุด รักแร้หนังไก่ และติดเชื้อได้ง่าย
- บิกินี่: ผิวบอบบางมาก ขนหนาและหยาบ หากโกนผิดวิธีมักเป็นตุ่มแดง
แนะนำวิธีแก้ปัญหาโกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง
เมื่อเกิดอาการโกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง สิ่งสำคัญที่สุดคือควรรีบดูแลและบรรเทาอาการอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามหรือทิ้งรอยแผลถาวรไว้บนผิว การดูแลผิวทันทีหลังโกนอย่างเหมาะสมไม่เพียงช่วยลดอาการไม่สบายตัว แต่ยังช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดโอกาสการเกิดขนคุดหรืออาการแพ้ซ้ำ
โดยเวลาโกนขนแล้วคัน มีวิธีแก้ดังต่อไปนี้
1. ประคบเย็นทันทีหลังโกน
วิธีแก้เวลาโกนขนแล้วคันวิธีแรก คือ ประคบเย็น เพราะผิวจะอยู่ในสภาวะที่บอบบางมากกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณที่โกนใหม่ ๆ จะไวต่ออุณหภูมิ การเสียดสี และแบคทีเรีย การประคบเย็นทันทีจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยปลอบประโลมผิวได้อย่างรวดเร็ว
ควรใช้ผ้าขนหนูสะอาดชุบน้ำเย็น หรือนำแผ่นเจลเย็นที่แช่ไว้ในตู้เย็นมาประคบบริเวณที่เพิ่งโกนเป็นเวลา 5–10 นาที ช่วยให้รูขุมขนหดตัว ลดอุณหภูมิผิวที่อาจสูงขึ้นจากแรงเสียดสีขณะโกน และบรรเทาอาการแสบ คัน รวมถึงลดความเสี่ยงจากอาการโกนขนแล้วคันที่อาจกลายเป็นตุ่มแดงในภายหลัง และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดแรง ๆ เพราะอาจทำให้ผิวถลอกหรือเปิดแผลเล็ก ๆ ได้โดยไม่รู้ตัว
2. บำรุงผิวด้วยว่านห่างจระเข้
ว่านหางจระเข้ ถือเป็นตัวช่วยยอดนิยมในการบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวหลังโกนขนแล้วคัน มีตุ่มแดง เพราะมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ลดอาการแสบร้อน และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก พร้อมช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนังที่ถูกทำร้ายจากใบมีดโกน และควรเลือกเจลว่านหางจระเข้ออร์แกนิกที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารกันเสีย ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดการแพ้ซ้ำได้ง่าย
เพื่อลดอาการโกนขนแล้วคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้วิธีแต้มและเกลี่ยเบา ๆ ไม่ควรถูแรง เพราะผิวบริเวณนี้เพิ่งถูกเปิดด้วยใบมีดโกน มีความไวต่อแรงสัมผัสมากกว่าปกติ ควรปล่อยให้เจลซึมเข้าสู่ผิวเองและรอให้แห้งโดยธรรมชาติ
3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
หลังจากบรรเทาอาการระคายเคืองเบื้องต้นด้วยการประคบเย็นและทาว่านหางจระเข้แล้ว ขั้นตอนสำคัญถัดไปคือการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างล้ำลึก เพื่อให้ผิวสามารถฟื้นฟูได้เต็มที่และลดโอกาสการคันหรือลอกในภายหลัง แนะนำให้เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรเข้มข้นที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ (Ceramide) เพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว และไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ที่ช่วยลดการอักเสบและรอยแดงหลังโกนได้ดี
หากไม่ชอบทามอยส์เจอไรเซอร์ ต้องการความรู้สึกบางเบาและเป็นธรรมชาติ สามารถเลือกใช้น้ำมันธรรมชาติที่ไม่อุดตันรูขุมขน เช่น น้ำมันโจโจบา (Jojoba Oil) หรือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น โดยหยดลงบนฝ่ามือและนวดเบา ๆ ลงบนผิว เพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้นและให้ผิวรู้สึกนุ่มลื่น ลดความแห้งกร้าน อาการโกนขนจักกะแร้ ขนแขน ขนขา แล้วคันน้อยลง และยังช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาว
4. เลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดรูปหลังโกนขน
หลังการโกนขน ผิวจะไวต่อแรงสัมผัสและสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหากมีการเสียดสีหรือกดทับบริเวณที่เพิ่งโกน อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวลอกเป็นขุย หรือกระตุ้นให้ตุ่มแดงลุกลามกลายเป็นผื่นหรือแผลอักเสบได้
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ลุกลามจากการโกนขนแล้วคัน ควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่หลวม ระบายอากาศได้ดี และไม่แนบติดกับผิว เช่น เสื้อผ้าฝ้าย 100% หรือเนื้อผ้าที่มีความยืดหยุ่นและนุ่ม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดรูป เช่น กางเกงยีนส์รัดแน่น กางเกงในหรือบราแบบรัดรูปช่วงขาหนีบหรือรักแร้ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังโกน โดยเฉพาะในบริเวณบิกินี่และรักแร้ ซึ่งอาจอบเหงื่อได้ง่ายและมีโอกาสติดเชื้อจากแบคทีเรียสูงขึ้น
5. งดการโกนขน และวิธีกำจัดขนที่ทำร้ายผิว
หากอาการยังไม่ดีขึ้น หรือพบว่าการโกนขนทำให้เกิดอาการระคายเคืองซ้ำ ๆ ควรหลีกเลี่ยงการโกน และเปลี่ยนไปใช้วิธีกำจัดขนที่ปลอดภัยต่อผิวมากกว่า เช่น การทำ IPL Laser ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ใช้พลังงานแสงในการทำลายรากขนอย่างอ่อนโยน โดยไม่สร้างความเสียหายต่อผิวด้านบน
ซึ่ง เครื่องเลเซอร์ขน Parin สามารถใช้งานได้แบบ 2 in1 ไม่เพียงแต่ช่วยลดการเกิดขนใหม่ แต่ยังช่วยลดการสะสมของเซลล์ผิวที่อุดตันรูขุมขน อันเป็นสาเหตุหลักของอาการขนคุดและตุ่มแดงเรื้อรัง พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใครที่ต้องการเลิกโกนขนแบบเดิม ๆ และมองหาทางเลือกที่เห็นผลระยะยาวโดยไม่ต้องเสี่ยงกับอาการโกนขนแล้วคัน แสบ หรือหนังไก่อีกต่อไป
4 Tips ป้องกันปัญหาโกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง
บอกลาปัญหาโกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง ด้วย 4 เคล็ดลับโกนขนง่าย ๆ เผยผิวสวย น่าสัมผัส แบบไม่ต้องกังวล
1. เตรียมผิวให้พร้อมก่อนโกนขน
การเตรียมผิวก่อนโกนขนเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยลดแรงเสียดสีและลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง ควรอาบน้ำอุ่นหรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่ต้องการโกนเป็นเวลา 5–10 นาที วิธีนี้จะช่วยให้ขนนุ่มลง รูขุมขนเปิด และผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น จึงช่วยให้ใบมีดสามารถโกนได้เรียบลื่นและลึกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดโอกาสการเกิดขนคุดและการถลอกของผิวหนังได้อย่างดี
2. เลือกใช้มีดโกนที่คมและสะอาด
ใบมีดโกนที่ใช้ควรอยู่ในสภาพคม ไม่มีสนิมหรือคราบสกปรก เพราะใบมีดที่ทื่อหรือเก่าจะทำให้ต้องออกแรงโกนมากขึ้น เสี่ยงต่อการโกนขนแล้วคัน ถลอก ตุ่มแดง หรือขนที่ถูกดึงแทนที่จะถูกตัด ควรเปลี่ยนใบมีดใหม่ทุก 3–5 ครั้ง และไม่ควรใช้ใบมีดร่วมกับผู้อื่นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
3. ใช้ตัวช่วยในการโกนขน
หลีกเลี่ยงการโกนขนแบบแห้ง เพราะจะเพิ่มโอกาสเกิดอาการคันและผิวลอก การใช้ผลิตภัณฑ์เสริม เช่น ครีมโกนขน มูส หรือเจลสูตรอ่อนโยน จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นและลดแรงเสียดสีจากใบมีดระหว่างโกนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ วิตามินอี หรือกรดไฮยาลูโรนิก จะยิ่งช่วยบำรุงผิวไปในตัว และลดความเสี่ยงการเกิดผื่นแดงหรืออาการแสบคันหลังโกนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. โกนขนให้ถูกวิธี
ควรโกนตามแนวเส้นขน หลีกเลี่ยงการโกนย้อนแนว (หากต้องการเก็บรายละเอียดสามารถโกนย้อนแนวเส้นขนได้ แต่ต้องรอให้ผิวฟื้นตัวก่อน) ใช้แรงเบา ๆ อย่ากดใบมีดแรงเกินไป หรือหากไม่อยากเสี่ยงอาการคันอีกเลย ให้ลองเปลี่ยนมาใช้เครื่องเลเซอร์ขน Parin ทางเลือกใหม่ที่ช่วยลดการโกนขนซ้ำ ๆ พร้อมให้ผิวเรียบลื่นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องโกนขนแล้วคัน ผิวระคายเคืองอีกต่อไป
อ่านเพิ่มเติม: วิธีโกนขนที่ถูกต้อง ช่วยไม่ให้เป็นตอ ไม่คัน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม น่าสัมผัส
โกนขนแล้วคัน เป็นตุ่มแดง กี่วันหาย
โดยทั่วไปอาการโกนขนแล้วคันและตุ่มแดงหลังโกนจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1–3 วัน หากไม่มีการติดเชื้อหรือเกาให้ผิวถลอก ในบางรายอาจต้องใช้เวลานานกว่านี้หากผิวบอบบางหรือมีอาการแพ้
หากอาการไม่ทุเลาลงภายใน 3–5 วัน หรือมีอาการปวด บวม แดง ลุกลาม ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือขนคุดลึกได้
โกนขนแล้วคัน อันตรายไหม
เวลาโกนขนน้องสาวแล้วคัน โกนขนขาแล้วคัน หรือโกนบริเวณอื่น ๆ แล้วมีอาการคันไม่ถือว่าอันตราย แต่เป็นสัญญาณว่าผิวกำลังระคายเคือง หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจลุกลามเป็น ขนคุดอักเสบ รูขุมขนอักเสบเรื้อรัง ผิวคล้ำสะสมจากการเกา และตุ่มหนองหรือติดเชื้อแบคทีเรีย
ทางที่ดีที่สุดคือต้องหมั่นสังเกตสภาพผิวหลังโกนทุกครั้ง หากพบสัญญาณผิดปกติควรหยุดโกนและบำรุงทันที หรือพิจารณาใช้วิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า เช่น การใช้เครื่องเลเซอร์กำจัดขน Parin ที่ไม่ต้องสัมผัสใบมีด ไม่เจ็บ ไม่เป็นตอ และไม่มีความเสี่ยงจากการโกนขนซ้ำ ๆ อีกต่อไป สามารถใช้งานเองที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ด้วยการรับรองจากอย.ไทย และการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เครื่องมือเกรดการแพทย์เจ้าแรกในประเทศไทย ผ่านการทดสอบ การเห็นผลลัพธ์ และความปลอดภัย โดยสถาบันวิจัย Journal of Cosmetic and Laser Therapy
ทำความรู้จักเครื่องเลเซอร์ขน Parin: แนะนำเครื่องเลเซอร์ขนสุดเจ๋ง รุ่นไหนดี? ขนหาย ผิวเนียน ช็อตเยอะ
บอกลาอาการโกนขนแล้วคัน ด้วยเครื่องเลเซอร์ขน Parin
การโกนขนแม้จะเป็นวิธีที่สะดวกและทำได้ง่าย แต่หากทำโดยขาดความระมัดระวังหรือละเลยการดูแลหลังโกน ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาได้ และหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาจากการโกนซ้ำ ๆ การเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ขน Parin ก็ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าวิธีเดิม ๆ
เพราะผิวที่เนียนเรียบ ไม่ระคายเคือง คือพื้นฐานของความมั่นใจในทุกวัน จึงควรดูแลผิวให้ดีตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะไม่ต้องกังวลกับอาการโกนขนแล้วคันอีกต่อไป ติดต่อเราได้ที่
Line: @parin_th
Facebook: Parin Thailand
Website: https://www.parinthailand.com
Tel: 0991987805